คุณเคยเจอประโยคภาษาอังกฤษสั้น ๆ ที่ดูธรรมดา แต่แอบซ่อนความหมายลึกซึ้งและใช้ได้หลากหลายสถานการณ์ไหม?
ประโยคอย่าง "Who knows..." หรือแปลไทยว่า "ใครจะรู้..." คือหนึ่งในวลีเด็ดที่เจ้าของภาษาชอบใช้ ไม่ว่าจะเพื่อสื่อความไม่แน่นอน ความหวัง หรือแม้แต่โยนคำถามให้คนฟังลองคิดต่อเอง
บล็อกนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวลี "Who knows..." อย่างลึกซึ้ง ทั้งในแง่ของ ความหมาย, การใช้งาน, และที่ขาดไม่ได้คือ การอธิบายไวยากรณ์อย่างละเอียด เพื่อให้คุณนำไปใช้ได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นในการพูด การเขียน หรือการสอบภาษาอังกฤษ
📚 ถ้าคุณกำลังเตรียมสอบภาษาอังกฤษ ฝึกพูด หรืออยากเพิ่มความเก๋ให้กับสำนวนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน — บทความนี้คือคำตอบของคุณ
ใครจะรู้... นี่อาจเป็นวลีที่คุณกำลังมองหาอยู่ก็ได้นะ 😉
You're likely to see the expressions below when reading a text based on statistics.
Who knows, you might even need to use them yourself one day. 😉
นี่คือคำแปลและคำอธิบายประโยคของคุณเป็นภาษาไทย:
"คุณน่าจะเห็นสำนวนด้านล่างนี้เวลาอ่านข้อความที่อ้างอิงสถิติ ใครจะรู้ คุณอาจต้องใช้มันซะเองสักวันนะ 😉"
เกร็ดภาษาที่น่าสนใจ:
"You're likely to see..." → "คุณน่าจะเห็น..." หรือ "มีแนวโน้มที่คุณจะเห็น..."
คำว่า "likely" ในบริบทนี้สื่อความหมายว่า มีความเป็นไปได้สูง
"text based on statistics" → "ข้อความที่อ้างอิงสถิติ" หรือ "เนื้อหาที่มีพื้นฐานจากข้อมูลสถิติ"
"Who knows..." → "ใครจะรู้..." (ใช้เพื่อสร้างความขบขันหรือความไม่แน่นอน)
"you might even need to use them yourself one day" → "คุณอาจต้องใช้มันซะเองสักวัน"
การเติมคำว่า "ซะเอง" ทำให้ประโยคเป็นธรรมชาติมากขึ้นในภาษาพูด
ตัวอย่างเพิ่มเติม:
"Expressions like ‘significant increase’ are likely to appear in statistical reports."
แปล: "สำนวนเช่น 'เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ' มักปรากฏในรายงานสถิติ"
🔍 แยกวิเคราะห์ไวยากรณ์
✅ 1. "You're likely to see..."
You're = You are (ประธาน + กริยา "be")
likely to + V1 = โครงสร้างที่แปลว่า มีแนวโน้มที่จะ...
เช่น: She’s likely to arrive late. (เธอน่าจะมาสาย)
to see = กริยา infinitive หลัง “likely to”
the expressions below = คำศัพท์/สำนวนด้านล่าง (กรรมของ see)
👉 โดยรวม: "You're likely to see..." = คุณน่าจะได้เห็น...
✅ 2. "...when reading a text based on statistics."
when = เมื่อ (เป็นคำเชื่อมเวลา)
reading = gerund/participle (รูป V-ing ใช้แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน)
a text based on statistics = ข้อความที่มีพื้นฐานจากสถิติ
👉 โดยรวม: "when reading a text based on statistics." = เมื่อคุณอ่านบทความที่มีพื้นฐานจากสถิติ
✳️ Note: "when reading" → ใช้ V-ing แทน "when you are reading" เพื่อความกระชับ
✅ 3. "Who knows, you might even need to use them yourself one day."
Who knows = ใครจะไปรู้ (วลีที่ใช้แสดงความไม่แน่นอน/ความเป็นไปได้)
you might = อาจจะ (modal verb)
even = แม้แต่ (เน้นความไม่คาดคิด)
need to use = จำเป็นต้องใช้ (need to + V1)
them = สรรพนามแทน "the expressions" (คำสำนวน)
yourself = เน้นว่า คุณเอง (reflexive pronoun)
one day = สักวันหนึ่ง
👉 โดยรวม: ใครจะไปรู้ คุณเองอาจต้องใช้มันในวันหนึ่งก็ได้
🔚 สรุปไวยากรณ์ที่น่าสนใจในประโยคนี้
likely to + V1 → ใช้แสดงความเป็นไปได้
when + V-ing → ใช้แทน "when you are doing..."
modal verb (might, can, will) + infinitive (V1) → แสดงความเป็นไปได้
reflexive pronoun (yourself) → เน้นผู้กระทำ
หากอยากให้แปลหรือยกตัวอย่างเพิ่มเติมในแต่ละโครงสร้าง บอกได้เลยครับเพื่อนๆ!
ขอบคุณมากครับ แล้วพบกันใหม่ครับ
Bye,
Thanks for reading.
Posted by: Michael Leng
I've known, then I've grown.
ถ้าชอบกด Like ถ้าใช่กด Share / ขอบคุณมากครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น